เครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม




     รางวัล SVN Awards ประจำปี 2552 ประกอบไปด้วยรางวัล SVN Awards สาขาธุรกิจ, SVN Awards สาขาสังคม, SVN Awards สาขาเยาวชน ให้แก่องค์กรธุรกิจซึ่งได้ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร และองค์กรหรือบุคคลภาคสังคม และองค์กรหรือบุคคลภาคเยาวชน ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมหรืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะจรรโลงเจตจำนงที่ดีงาม สนับสนุนและเชิดชูองค์กรที่มีความคิดสร้างสรรค์อันน่ายกย่อง ให้เป็นที่ประจักษ์ และเป็นแบบอย่างแก่สังคมโดยทั่วไป รางวัลนี้มุ่งสะท้อนให้เห็นว่าองค์กรไม่ว่าขนาดจะใหญ่หรือเล็ก ต่างก็สามารถแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้

SVN Awards 2552 ประเภทธุรกิจขนาดเล็ก บริษัท ดอคคิวเมนท์ พาร์เซล เอ็กเพรส จำกัด
     กิจการ ขนส่งพัสดุด่วนระหว่างประเทศแห่งนี้ ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๑ หลังจากดำเนินธุรกิจไปได้ประมาณ ๕ ปี ธุรกิจเริ่มเข้าที่เข้าทาง บริษัทฯเริ่มช่วยเหลือสังคมด้วยการบริจาคผ่านองค์กร และมูลนิธิต่างๆตลอดมา แรงขับเคลื่อนของผู้เป็นเจ้าของกิจการ เกิดจากหลักธรรมประจำใจ และการแลเห็นคุณค่าของการแบ่งปันให้กับผู้อื่น จนนำมาสู่การบัญญัติไว้เป็นพันธกิจของบริษัทฯ ซึ่งมิได้จำกัดอยู่เพียงแค่พันธกิจทางการค้าอีกต่อไป แต่ครอบคลุมไปถึงความตั้งใจที่จะพัฒนาคน ให้ถึงพร้อมไปด้วยความรู้ ความสามารถ จรรยาบรรณ อีกทั้งมุ่งหมายจะดูแลพนักงานและครอบครัวให้มีความสุข ดำเนินชีวิตด้วยสติปัญญา และรู้จักการแบ่งปันให้แก่สังคม ตลอดจนร่วมกันพิทักษ์สิ่งแวดล้อมในขอบเขตที่สามารถทำได้
     ในด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯริเริ่มนำถุงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้เพื่อการขนส่งพัสดุ ถุงดังกล่าวผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ย่อยสลายได้ภายในสองปี น่ายินดีที่ถุงดังกล่าวได้รับการยอมรับจากเครือข่ายต่างประเทศที่จะนำไปใช้ กันอย่างแพร่หลายในที่สุด
     บริษัทฯ ยังรณรงค์จิตสำนึกการอนุรัษ์สิ่งแวดล้อมภายในองค์กร ให้พนักงานมีส่วนร่วม และในหลายกรณีพนักงานเป็นผู้ริเริ่มกิจกรรมภายใน ไม่ว่าจะเป็นโครงการกระดาษเพื่อต้นไม้ โครงการคัดแยกขยะ กิจกรรมปลูกป่าชายเลน และอื่นๆ
     ในด้านการดูแลพนักงาน นอกจากจะจัดสวัสดิการพื้นฐานให้แก่หนักงานแล้ว บริษัทฯยังมีสวัสดิการพิเศษ เช่นสวัสดิการครอบครัว การแบ่งเบาภาระค่าน้ำมันในภาวะราคาน้ำมันผันผวน ที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของครอบครัวพนักงานให้มีความสุขทั้งกายและใจ เช่นโครงการบัญชีชีวิตเพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน การส่งเสริมการออม ด้วยการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการออมและการลงทุนที่เหมาะสม การชี้แนะเพื่อแก้ไขปัญหาการพนันและยาเสพติดซึ่งเป็นที่มาของปัญหาหนี้สิน การให้ความรู้ในเรื่องชีวิตครอบครัวเพื่อให้ครอบครัวมีสุข การส่งเสริมสุขภาพด้วยการให้ออกกำลังกายทุกวัน การกล่อมเกลาจิตใจด้วยการปฏิบัติธรรม การส่งเสริมให้มีการสื่อสารภายในโดยพนักงานเพื่อความสุขในที่ทำงาน รวมถึงการส่งเสริมพนักงานเข้าร่วมกิจกรรมสังคมด้วยจิตอาสา

SVN Awards 2552 ประเภทรางวัลภาคสังคม เครือข่ายองค์กรชาวบ้านป่าชุมชนหนองเยาะ
     ป่าหนองเยาะ ตำบลตาคง และ ตำบลพระแก้ว อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์เคย เป็นป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แต่หลังจากการให้สัมปทานตัดไม้เพื่อทำไม้หมอนรถไฟ ป่าหมดลงอย่างรวดเร็ว ป่าหนองเยาะที่เคยเขียวขจีกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม จากพื้นที่ป่าเก้าหมื่นไร่ในปี ๒๕๒๒ เหลืออยู่เพียง ๑๕๐๐ ไร่ ในปัจจุบัน
     หลังจากป่าธรรมชาติถูกทำลายลงด้วยสัญญาสัมปทาน องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ก็เริ่มเข้าไปปลูกต้นยูคาลิปตัส แต่เนื่องจากไม้ยูคาฯ ซึ่งแม้จะเป็นพืชยืนต้นที่ใช้ประโยชน์ได้หลายประการ แต่ขณะเดียวกันก็ทำลายความอุดมสมบูรณ์ของดินอย่างร้ายแรง พืชอื่นที่อยู่ใกล้เคียงไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดี ทำให้การหาอยู่หากินของชาวบ้านต้องลำบากยากแค้น จึงเกิดความขัดแย้งระหว่างคนในชุมชนกับเจ้าหน้าที่สวนป่าด้วย ความร่วมมือของนักวิชาการ นักพัฒนาหรือ NGO อาสาสมัคร และแกนนำในชุมชน ได้ร่วมกันก่อตั้ง “เครือข่ายองค์กรชาวบ้านป่าชุมชนหนองเยาะ” ซึ่งเป็นเครือข่ายของประชาชน ๗ หมู่บ้าน ๒ ตำบล ในอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อร่วมกันเข้าดำเนินการปกป้อง และฟื้นฟูสภาพป่าแทนองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ด้วย พลังแห่งความร่วมมือกันนั้นได้ทำให้ป่าสัมปทานแห่งนี้ กลายเป็นป่าสาธารณะของชุมชนในที่สุด ชาวบ้านสามารถร่วมกันฟื้นฟูสภาพป่า จนเกิดความอุดมสมบูรณ์ขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ จนปัจจุบัน นับเป็นเวลา ๑๓ ปี โดยได้การกำหนดกติกาในการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างสร้างสรรค์ ประชาชนทุกหมู่บ้านที่อยู่รอบแนวป่า ต่างได้รับประโยชน์ทั้งเป็นแหล่งอาหาร เห็ดป่า สมุนไพร ไม้ฟืนที่ได้จากกิ่งก้านของต้นไม้ โดยห้ามมิให้มีการตัดลำต้น ป่าชุมชนเป็นแหล่งหาอยู่หากินของชาวบ้านอย่างสำคัญยิ่ง เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ชาวชุมชนร่วมกันปกป้องรักษาป่าเอาไว้อย่างเหนียว แน่น
     นอกจากนั้นชาวชุมชนยังใช้ป่าเป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนให้รู้จักคุณค่า และมีภาคภูมิใจในทรัพยากรท้องถิ่นของตน นับเป็นการเตรียมคนรุ่นใหม่ ให้สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นไว้อย่างรอบคอบด้วยจิตวิญญาณที่กล้าหาญ มุ่งมั่นในการเปลี่ยนความเสื่อมโทรม จากซากป่าสัมปทานให้เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ สามารถคืนความเป็นธรรมชาติของป่าให้แก่แผ่นดินด้วยการดูแลรักษา และปกป้องอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของ “เครือข่ายองค์กรชาวบ้านป่าชุมชน หนองเยาะ” นับเป็นแบบอย่างของการร่วมแรงร่วมใจ ของคนจากหลายชุมชนที่สามารถกระทำภาระกิจสำคัญอันยากลำบากนี้ จนเห็นผลเป็นที่ประจักษ์อย่างน่าชื่นชม

SVN Awards 2552 ประเภทธุรกิจขนาดใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด
     บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของไทย ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๘๕ ตลอด ระยะเวลาที่ผ่านมา ได้สั่งสมประสบการณ์และความชำนาญในการดำเนินธุรกิจ ทั้งยังได้รับความเชื่อมั่นศรัทธาจากมหาชนเพิ่มขึ้นตามลำดับ จนก้าวขึ้นเป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำของประเทศ ด้วยปณิธานของผู้บริหารที่ว่า "....เราจะเป็นองค์กรที่ไม่มุ่งแสวงหากำไรสูงสุด แต่แสวงหาผลกำไรที่เหมาะสม และจัดสรรผลกำไรนั้นกลับคืนสู่สังคมส่วนหนึ่ง ผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่ง พนักงานส่วนหนึ่ง และลูกค้าส่วนหนึ่ง และเราจะเป็นมากกว่าการประกันชีวิต..."
     เพื่อให้ตอบสนองต่อ ปณิธานข้างต้น นอกจากบริษัทฯ จะกำหนดพันธกิจทางธุรกิจ ที่จะสร้างสรรค์บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง ด้วยการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ให้มีความเป็นมืออาชีพ ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึก ขวัญกำลังใจ และคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งการนำเทคโนโลยีก้าวหน้ามาเป็นเครื่องมือในการบริหารงานแล้ว บริษัทฯยังได้วางพันธกิจที่จะมีส่วนร่วม และสนับสนุนการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ด้วยจิตสำนึกการเป็นบริษัทของคนไทย โดยผ่านแผนแม่บท CSR ซึ่งประกอบด้วยสามยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ การให้ การดูแลชีวิตคนไทย และการเติมเต็มคุณค่าแห่งชีวิต
     ในด้านการให้ บริษัทได้ทำโครงการ "หนึ่งคนให้ หลายคนรับ" ซึ่งประกอบไปด้วย "หนึ่งคนให้หลายคนรับ เพื่อสภากาชาดไทย" "หนึ่งคนให้หลายคนรับ เพื่อผู้พิการ" "หนึ่งคนให้หลายคนรับ เพื่อบ้านโฮมฮัก" "หนึ่งคนให้หลายคนรับ เพื่อความมั่นคง" "หนึ่งคนให้หลายคนรับ เพื่อสุขภาพคนไทย" "หนึ่งคนให้หลายคนรับ เพื่อสิ่งแวดล้อม" และ "หนึ่งคนให้ หลายคนรับ เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย" นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังได้ก่อตั้งมูลนิธิขึ้นในปีพ.ศ. ๒๕๓๘ เพื่อให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ด้อยโอกาส โดยได้รณรงค์รวบรวมทุนทรัพย์จากพนักงาน บริษัทในเครือ และผู้มีจิตศรัทธา
     ในด้านการดูแลชีวิตคนไทย บริษัทได้พัฒนานวัตกรรมกรมธรรม์ และบริการอันหลากหลาย เพื่อดูแลชีวิตคนไทยกลุ่มที่เคยถูกละเลย เช่น กรมธรรม์ผู้สูงอายุ กรมธรรม์แรกในปีพ.ศ.๒๕๑๕ ที่รับประกันผู้มีอายุ ๖๐-๗๕ ปี กรมธรรม์เพื่อคนพิการ(ปีพ.ศ. ๒๕๔๕) กรมธรรม์แรกและหนึ่งเดียวในโลกสำหรับผู้พิการ กรมธรรม์หมู่ประกันชีวิตทหาร นอกจากนั้น บริษัทยังได้พัฒนาบริการ"ฮอตไลน์" คู่กับบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
     ในส่วนการเติมเต็มคุณค่าแห่งชีวิต นอกจากบริษัทจะจัดสวัสดิการพื้นฐานต่างๆอย่างครบถ้วนให้แก่พนักงานระดับ ต่างๆโดยทั่วถึงแล้ว ยังมุ่งเพิ่มพูนความสุขในการดำรงชีวิตให้กับคนในสังคม โดยเริ่มที่พนักงานในองค์กร ด้วยการปรับเปลี่ยนทัศนคติ พัฒนาศักยภาพ ทักษะ ความเป็นมืออาชีพ และที่สำคัญที่สุดคือการส่งเสริมให้พนักงานมีจิตสำนึก-จิตอาสา และส่งเสริมให้พนักงานจิตอาสาทั่วประเทศกว่า ๕๐๐ คน เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ทั้งจิตใจและทรัพยากรต่างๆเพื่อสังคมอย่างไม่หยุดยั้งเช่นนี้ บริษัทประกันชีวิตผู้เป็นเจ้าของภาพยนตร์โฆษณาอันกินใจ เป็นที่ชื่นชมไปทั่วสารทิศแห่งนี้

SVN Awards 2552 ประเภทรางวัลองค์กรภาคเยาวชน กลุ่มเยาวชนสกอร์คลี ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
ในอดีตเรามักจะได้ยินคำกล่าวว่า “ชาวเขาคือผู้ทำลายป่า” แต่ในความเป็นจริงเรากลับพบว่า ที่แท้แล้วชนเผ่าเหล่านี้คือผู้ปกป้องป่า ด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ยังปฏิบัติกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ พี่น้องปกาเกอะญอจะนำสายสะดือของเด็กทารกใส่กระบอกไม้ไผ่แขวนไว้ที่ต้นไม้ใน ป่าสูงอันเป็นป่าต้นน้ำหรือที่เรียกว่าป่าสะดือ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่าเขาจะต้องรักษาต้นไม้นั้นตราบเท่าชีวิต สกอร์คลี แปลว่าเมล็ดพันธ์ปกาเกอะญอ คือกลุ่มเยาวชนผู้ตั้งคำถามต่อวิถีอนาคตของตนเอง และตัดสินใจที่จะสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิม เพื่อดำรงรักษาวิถีชิวิตอันสวยงามของตนเอาไว้ ด้วยการตั้งโจทย์ในวงสนทนาว่า “เราต้องกลับไปค้นหา ว่าอะไรคือความภาคภูมิใจในความเป็นปกาเกอะญอ” เยาวชนในกลุ่มทุกคนต่างร่วมกันแสวงหาคำตอบ เพื่อค้นหาวิถีชีวิตที่ลงตัวท่ามกลางวัฒนธรรมสองกระแส
     เมื่อได้สรุปบทเรียนของชีวิตในเมืองใหญ่ และหันกลับไปรื้อฟื้นคุณค่าเดิมแท้ของตนเอง ดังคำรำพึงของคนในกลุ่มที่ว่า “มันต้องอยู่ได้ทั้ง ๒ แบบ ต้องเรียนรู้รากเหง้า เท่าทันสังคม แล้วกำหนดวิถีชีวิตตัวเองได้ บนพื้นฐานที่บรรพบุรุษสั่งสมมา … ในเมื่อดวงอาทิตย์จะขึ้น คิดหรือว่าจะดึงให้มันอยู่ที่เดิมได้….เราไม่คิดว่าจะหยุดการเปลี่ยนแปลงได้ พวกเราคุยกันว่า ถึงมันจะเปลี่ยนก็ขอให้เปลี่ยนไปอย่างเหมาะสม แม้ในใจลึกๆ หวังและอยากให้มันกลับมาเหมือนเดิม หรือดีกว่าเดิมได้ในสักวันหนึ่ง” คำกล่าวอัน ทรงพลังเหล่านี้เกิดจากการริเริ่มทำกิจกรรมเพื่อสังคมโดยเยาวชนใน ชุมชนไม่กี่คน ซึ่งได้รับการสนับสนุนให้คำปรึกษาจากผู้ใหญ่และนักพัฒนาในชุมชน นับตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ เป็นต้นมา กิจกรรมของกลุ่มสกอร์คลี ได้สร้างเสริมความภาคภูมิใจในตนเอง ช่วยเพิ่มทางออกให้กับเด็กๆในชุมชนได้กลับมาสัมผัสถึงคุณค่าที่มีอยู่แต่ เดิมของตนเอง แลเห็นชีวิตที่เรียบง่ายและร่ำรวยด้วยทรัพยกรธรรมชาติอันอุดมที่บรรพบุรุษ รักษาไว้นานนับร้อยปีว่าเป็นสิ่งมีค่า ควรแก่การปกป้องรักษาไว้สืบไป บางคนในกลุ่มเคย ประกอบอาชีพเป็นสาวโรงงานในกรุงเทพระยะหนึ่ง แต่ก็พบว่าความสุขที่ตนต้องการคือการอยู่กับบ้านเกิดที่อบอุ่น แม้จะมีเงินใช้ไม่มากแต่มีความสุขที่ยิ่งกว่า แล้วชีวิตก็มิได้ขาดแคลนอะไร ส่วนใหญ่ชีวิตในเมืองเราอยู่กับส่วนเกินและใช้จ่ายกับส่วนเกินเสียมากกว่า
     ดังคำสนทนา ในวงกิจกรรมที่ว่า “สิ่งที่ต้องเร่งสร้างสำหรับเยาวชนวันนี้คือ กระบวนการที่ทำให้เยาวชนเท่าทันตนเอง ผู้อื่น และสังคม ... การใช้เทคโนโลยีเราต้องเป็นนายมันใช้มันให้เป็นประโยชน์ใม่ตกเป็น ทาสของมัน” และ “อย่าหลง ชื่นชมบ้านเมืองของเขา บ้านเมืองของเขาต้องซื้อน้ำซื้อบ้าน จงรักษาบ้านเราไว้ดีกว่า ข้าวไม่ต้องซื้อ เสื้อผ้าก็ทอใส่เอง ด้วยเชื่อว่าเสียงเพรียกเหล่านี้จักผ่านทิวเขา ทุ่งหญ้า ป่าใหญ่ ก้องไปถึงในเมืองใหญ่เรียกคนหนุ่มสาวกลับคืนบ้านคืนดอย" ด้วยผลงานของกลุ่มสกอร์คลี วันนี้หนุ่มสาวปาเกอะญอ บ้านห้วยอีค่าง หลายคนเริ่มหันกลับไปช่วยกันพัฒนาบ้านเกิดของตนให้น่าอยู่ยิ่งๆ ขึ้น จนเป็นแบบอย่างให้หมู่บ้านใกล้เคียงเริ่มนำไปเป็นแนวทาง